ซากุระ ผลิดอกเบ่งบานจนทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นสีชมพู
ช่วงนี้จะมีเทศกาล Ohanami หรือเทศกาลชมดอกซากุระ
ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ "สมัยเฮอัน" และนิยมทำสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน
ซากุระจะเริ่มบานจากทางตอนใต้ของประเทศคือOkinawa ไล่ขึ้นมา
Kyushu ,Shikoku ,Honshu ส่วน Hokkaidoซึ่งอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่นจะบานราว
ๆ
ต้นเดือนพฤษภาคมผู้คนจะติดตามข่าวพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์เพื่อจะได้ทราบว่าที่ไหนซากุระจะบานเมื่อไหร่
มีการสำรวจต้นซากุระตามที่ต่าง ๆทั่วญี่ปุ่นแล้วจะมีประกาศอย่างเป็นทางการถึงกำหนดที่ซากุระจะบานเส้นที่ลากเชื่อมจุดที่พยากรณ์ว่าซากุระจะบานในวันเดียวกัน
เราเรียนกว่า "ซากุระเซนเซน" Sakura Zensenนอกจากนั้นตามสถานีรถไฟก็ยังเต็มไปด้วยโปสเตอร์เชิญชวนให้ไปเที่ยวตามสถานทีต่างๆ
ทีมี่ดอกซากุระอีกด้วย พอถึงวัน ชมดอกซากุระ ผู้คนต่างจะพากันนำอาหารกล่อง
สุราขนมต่าง ๆ โดยเฉพาะ Sakura-mochi เป็นโมจิที่ใช้ใบซากุระห่อ
และดื่มกินเดินเล่นกันใต้ต้นซากุระจนถึงเวลากลางคืนเลยทีเดียว ดังสุภาษิตที่ว่า
"Hana yoridango" (กินขนมดีกว่าชมดอกไม้)
ดอกซากุระ ในภาษาญี่ปุ่นนั้น
เชื่อกันว่ากร่อนมาจากคำว่า ซะกุยะ (หมายถึง ผลิบาน) อันเป็นชื่อของเจ้าหญิง
โคโนฮะนะซะคุยาฮิเม มีศาลบูชาของพระองค์อยู่บนยอดเขาฟูจิด้วย
สำหรับพระนามของเจ้าหญิงองค์ดังกล่าวนั้น มีความหมายว่าเจ้าหญิงดอกไม้บาน
และเนื่องจากซากุระเป็นดอกไม้ที่นิยมกันมากในญี่ปุ่นสมัยนั้น
คำว่าดอกไม้ดังกล่าวจึงหมายถึงดอกซากุระนั่นเอง
เจ้าหญิงองค์ดังกล่าวได้รับพระนามเช่นนั้น ก็เพราะมีเรื่องเล่ามาว่าทรงตกจากสวรรค์
มาบนต้นซากุระ ดังนั้น ดอกซากุระจึงถือเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น
สำหรับในฤดูใบไม้ผลินั้น
สิ่งหนึ่งที่คนญี่ปุ่นเฝ้ารอ ก็คือการได้ชมความงามของดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่เรียกว่า ohanami
(อย่าไปคิดว่าเป็นชื่อขนมขบเคี้ยวชื่อดังในเมืองไทยนะครับ)
ซึ่งเริ่มผลิดอกอันงดงามให้ชมกันตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์แล้ว โดยเริ่มด้วย
แต่สุดยอดของความสวยงามของการชมดอกไม้ คือ ส่วนดอกไม้ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปชื่นชมก็คงไม่พ้น
ดอกไม้ประจำชาติของเขา คือซากุระ นั่นเองครับ ซากุระ เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่
เป็นพืชจำพวกเดียวกับกุหลาบ มีกระจายอยู่ทางเอเชียตะวันออก
ต้นซากุระเองนั้นมีหลายพันธุ์ หลายชนิด
ซึ่งความหลากหลายนี้ทำให้ซากุระมีความแตกต่างกันในเรื่องสีของดอก ลักษณะของดอก ใบ
หรือลำต้น ซึ่งปัจจุบันคาดว่าเฉพาะในญี่ปุ่นอย่างเดียวมีพันธุ์ต่างๆ
ของซากุระมากกว่า 300 ชนิด
แต่ซากุระที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปของคนญี่ปุ่นและกล่าวว่ามีจำนวนมากที่สุด
คือ พันธุ์ someiyoshino เป็นซากุระกลีบเดี่ยวที่นิยมปลูกกันมากตามสวนสาธารณะ
ริมแม่น้ำ สถานศึกษามาตั้งแต่สมัยเมจิ (ประมาณช่วงเดียวกับรัชกาลที่ 5)
ทั้งนี้เพราะเป็นพืชที่มีโตเร็ว นอกจากนี้ยังมี yaezakura ซึ่งเป็นซากุระที่มีลักษณะที่แตกต่างไปจาก
someiyoshino ที่ลักษณะของกลีบดอก
จะมีกลีบซ้อนกันหลายชั้นคล้ายกุหลาบ
ซากุระโดยทั่วไปมีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งคือ
จะผลิดอกทั้งต้น ก่อนที่จะผลิใบ หลังจากการผลัดใบในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนที่ซากุระจะผลิดอกให้เห็นนั้น
จะดูเหมือนต้นไม้ที่แห้งแล้งเหมือนต้นไม้ตายซากอย่างไรอย่างนั้นเลยครับ
แต่หลังจากผ่านพ้นความหนาวเย็นของช่วงฤดูหนาวไปแล้ว ต้นซากุระจะเริ่มแตกตา ( tsubomi
) ออกมาเต็มต้นไปหมด และค่อย ๆ โตทีละน้อย ๆ พร้อม ๆ
กับอากาศที่อุ่นขึ้นในแต่ละวัน แต่ว่าตาที่ผลิออกมานั้นแทนที่จะเป็นใบอ่อน
กลับกลายเป็นดอกสีขาว สีชมพูเต็มต้นไปหมด ก่อนที่จะมีใบอ่อนสีเขียว
ที่จะเริ่มผลิออกมาแซมสีของดอกเองในช่วงเวลาสัก 2 สัปดาห์ให้หลัง
พันธุ์ someiyoshino
ช่วงการเริ่มบานของดอกซากุระจะเป็นช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม
ต่อเนื่องไปถึงต้นเดือนพฤษภาคม (แล้วแต่สถานที่) ทำให้ซากุระ
เป็นสัญลักษณ์ที่ผูกพันธ์กับการเริ่มต้นอะไรหลายๆอย่างในชีวิต เช่น
การสำเร็จการศึกษา การเข้าศึกษา การเข้าทำงาน ซึ่งมักจะเริ่มในช่วงปลายเดือนมีนาคม
ถึงต้นเดือนเมษายน จนมีสำนวนที่พูดกันบ่อยๆ เช่น sakura ga saku?หมายถึง
การสอบเข้า ( เรียน หรือทำงาน ) หรือมีความแฝงว่า ประสบความสำเร็จ เป็นต้น
นอกจากนั้น ซากุระ
ยังเป็นต้นไม้ที่มีความสัมพันธ์กับอากาศค่อนข้างมาก ดอกซากุระจะบานในช่วงวันที่มีอากาศอบอุ่น
และจะบานจากทางใต้ไล่ไปทางเหนือ ซึ่งจะสลับทิศทางกับการดูใบไม้เปลี่ยนสี ( kouyou)
ในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนการที่ดอกซากุระจะบานเร็ว บานช้าอย่างไรนั้น
ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศในช่วงนั้นครับว่า อากาศเย็นหรืออบอุ่น ยิ่งอบอุ่นมากเท่าใด
ซากุระจะยิ่งบานเร็วขึ้นครับ Ohanami นั้นเป็นการพักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว
ทั้งนี้เพราะดอกซากุระเป็นดอกไม้ที่มีช่วงเวลาบานอยู่ประมาณ 10 วันถึง 2 สัปดาห์
ทำให้คนญี่ปุ่นมักจะออกไปชื่นชมกับดอกซากุระกันเป็นจำนวนมาก
และการที่ซากุระจะผลิดอกช่วงต้นเดือนเมษายน
ทำให้บรรดามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายอยากที่จะไปล้อมวงเพื่อชื่นชมกับบรรยากาศใต้ต้นซากุระ
พร้อมกับได้สนุกสนาน กับการดื่มกิน?ร้องรำทำเพลง
พูดคุยกันอย่างเต็มที่หลังจากที่เลิกงานแล้ว ยิ่งคนมากเท่าไหร่ ยิ่งได้บรรยากาศhanami ของจริงเท่านั้น
ถ้ามีโอกาสเราคงไม่พลาดดินแดนซากุระ ประญี่ปุ่นนะคะ
อ้างอิง http://www.dek-d.com/board/view/1187990/